3D Scanner เลือกอย่างไง? ให้เหมาะกับคุณ (Update 2021)

3D Scanner เลือกอย่างไง? ให้เหมาะกับคุณ (Update 2021)

ปัจจุบันมีเครื่อง 3D Scanner ให้เลือกใช้หลากหลาย มีทั้งแบบราคาหลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน โดยหลักๆในบทความนี้จะเป็นเครื่องสแกนเนอร์แบบ Structure Light/LED , Laser Scanner, Infrared ที่เป็นสินค้าหลักของ 3DD เป็นที่นิยมใช้กับทั่วโลก (เครื่อง Scanner แบบอื่นๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ “รู้จัก 3D Scanner คืออะไร”)

โดยเราสรุปการเลือกเครื่อง 3D Scanner จากหลายๆปัจจัย เช่น ขนาดของวัตถุที่เราต้องการสแกน, ชนิดของเครื่องสแกน, ความละเอียดของไฟล์สแกน และเรื่องสุดท้ายคือ ราคา ผู้ซื้อต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องการนำไปสแกนอะไร เช่น สแกนคนไข้, สแกนรถยนต์, สแกนรูปปั้น ต้องการคุณภาพงานระดับไหน เครื่องแพงไม่ได้ดีที่สุด, เครื่องถูกหากใช้งานไม่ได้ก็ไม่เหมาะเหมือนกัน

Note : กรณีอยากทำความรู้จักเครื่อง 3D Scanner ว่าคืออะไร มีกี่ประเภท ประโยชน์คืออะไร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ “รู้จัก 3D Scanner คืออะไร”


เลือก 3D Scanner จาก 5 ปัจจัย

1. ขนาดของวัตถูที่ต้องการสแกน 

เครื่อง 3D Scanner ที่ใช้กันโดยทั่วไปมักจะรองรับกับชิ้นงานกว้าง 10cm-100cm (ขนาดกลาง) เครื่องที่สแกนของชิ้นเล็กๆ โดยเฉพาะเล็กกว่า 5cm ลงมาจะราคาสูง (เลนส์ของเครื่องสแกนจะใช้เป็นแบบ Macro) ส่วนเครื่องสแกนที่สแกนงานขนาดใหญ่ไปเลยเกินกว่า 1เมตร-รถยนต์ทั้งคัน หรือไปถึง 10เมตร ก็จะมีราคาสูงไปเลยเช่น เครื่องสแกนชิ้นงานขนาดกลางมีให้เลือกมากสุดราคาถูกสุด

Note : เครื่องสแกนของขนาดเล็กไปเลย หรือ ใหญ่ไปเลย ราคาจะสูงครับ / ของขนาดกลาง จะมีหลายรุ่นให้เลือก ราคาถูกกว่า

ขนาดกลาง หากงานที่ต้องการสแกน ขนาดความกว้างอยู่ในช่วง 10cm – 100cm จะมีเครื่องให้เลือกอยู่หลายรุ่น เกินครึ่งของผู้ใช้งานจะสแกนในช่วงนี้ ตัวอย่างชิ้นงานจำพวก ชิ้นส่วนเครื่องจักร, รูปปั้น, โมเดลทางการแพทย์, สินค้าทั่วไป ภาชนะต่างๆ หรือ เทวรูป ราคาเครื่องในรุ่นนี้มีหลายระดับราคา ตามแต่ความละเอียดของกล้อง หรือ ฟังก์ชั่นต่างๆ

ระบบที่แนะนำ : ได้ทั้งหมด Fix Scan, Hybrid และ Hanheld

รุ่นที่แนะนำ EinScan SE(Accuracy 100Micron), EinScan Pro 2X (40-50Micron) , EinScan Pro HD (40-50Micron)

ขนาดเล็ก ชิ้นงานจำพวกแหวน Jewelry งาน Restoration (สร้างเครื่องประดับซ้ำ หรือ ลอกแบบ), งานทางด้านทันตกรรม สแกนปูนพิมพ์ฟัน หรือ แม้กระทั่ววัตถุมงคล พระเครื่องที่มีขนาดเล็ก โดยผู้เขียนขอใช้คำว่าเล็ก กับชิ้นงานขนาดกว้างน้อยกว่า 5cm ลงมา เครื่องที่สามารถสแกนชิ้นงานขนาดเล็ก 3D Scanner นั้นจะใช้เลนส์ Macro โปรเจคเตอร์ หรือ LED ก็จะต้องมีความละเอียดระดับ Macro ราคาเครื่องจะค่อนข้างสูง

ระบบที่แนะนำ : ต้องเป็น Fix Scan เท่านั้น โดยระบบจะมี Automatic Turntable มาให้ด้วย

รุ่นที่แนะนำ : AutoScan Inspec  (10Micron)

ขนาดใหญ่  ชิ้นงานขนาดใหญ่ ในที่นี่หมายถึงงานขนาด 100cm ขึ้นไป เครื่องที่เหมาะสมกับระบบนี้ ควรจะสามารถถือสแกนได้ Handheld ชิ้นงานจำพวก รถยนต์, ยานพาหนะ, เครื่องจักรขนาดใหญ่, รูปปั้น, งานศิลปะ, รวมร่างกายมนุษย์ หรือ ส่วนของร่างกาย งานขนาดใหญ่ล้วนต้องการ Function การถือสแกน โดย Handheld ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบตาม ความละเอียดของกล้อง หรือ เทคโนโลยีที่เอาเข้ามาเสริม เช่น บวก Laser Scan หรือ Infrared เข้ามาด้วย

เมื่อพูดถึง 3D Scanner แบบ Handheld สิ่งที่ต้องมาคำนึงคือ ความละเอียด และขนาดที่สแกนได้ต่อ Shot ยิ่งสามารถสแกนต่อ Shot ได้ใหญ่จะสามารถเก็บงานได้เร็วเท่านั้น ดังจะเห็นได้จาก รูปด้านล่างนี้

แสดงให้เห็นการ Scan Single Shot แต่ละรุ่นจะเก็บ Detail ได้ขนาดไม่เท่ากัน EinScan Pro 2X ได้เล็กสุดในกลุ่ม Handheld ในขณะที่ EinScan H กับ HX ทำได้ใหญ่ ใช้เวลาในการสแกนเก็บเร็วกว่า
เปรียบเทียบ Scan Area ในหนึ่ง Shot
จำลองให้ดูง่ายๆว่า ความเร็วในการทำงานแตกต่างกันอย่างไร

ระบบที่แนะนำ : Handheld มือถือ สแกนซึ่งสามารถทำงานได้เร็วกว่า

รุ่นที่แนะนำ : EinScan Pro 2X/2XP, EinScan Pro HD, EinScan H (มี Infrared), EinScan HX (มี 3D Laser Scan)

Note :  Laser Scan มีข้อดีสามารถสแกนวัตถุโลหะ รถยนต์ วัตถุสีเข้ม หรือ สะท้อนแสงได้, ส่วน Infrared จะมีความสามารถในการสแกนเส้นผม (สแกนได้ดีขึ้น แต่ไม่ทั้งหมดอยู่ดี)

2. Handheld & Fix Scanner

Fix Scan  การสแกนแบบ Fix Scan คือ “ขณะสแกนใน Shot นั้นๆ เครื่องสแกนต้องอยู่นิ่ง” อาจจะอยู่บนขาตั้งกล้อง หรือ แท่นจับ ก็ได้ เวลาในการสแกนแต่ละช็อตเกินวินาที-หลายวินาที ข้อดีของระบบนี้คือ สามารถเก็บงานได้ละเอียดกว่า ข้อเสียคือใช้เวลาในการสแกนนานกว่า

  • เวลาสแกนเครื่อง 3D Scanner ต้องอยู่นิ่งบนขาตั้งกล้อง สแกนจบค่อยย้ายไป Shot ต่อไป (แนะนำให้เลื่อมกับจุดเดิม 30% ขึ้นไป Software จึงจะต่อไฟล์ให้เองอัตโนมัติ)
  • ข้อดีของแบบนี้คือ สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ไฟล์คมชัดกว่า (เหมือนใช้ขาตั้งกล้องถ่ายรูป เทียบกับเราเอามือถือกล้องถ่าย)
  • ข้อเสียของระบบนี้ คือ ใช้เวลาในการสแกนนานกว่าแบบ Handheld โดยเฉพาะงานชิ้นใหญ่ๆเกิน 50cm ขึ้นไป
  • ระบบนี้สามารถทำงานร่วมกัน Automatic Turntable ได้ (3D Scanner อยู่บนขาตั้งกล้อง ชิ้นงานสแกนอยู่บนแท่นหมุนอัตโนมัติ เมื่อสแกน Shot หนึ่งเสร็จแท่นจะหมุนอัตโนมัติ ในองศาที่กำหนด เช่น 45องศา และ สแกนใน Shot ต่อไป สแกน 8 ครั้งจะได้ครบ 360องศา
  • ตัวอย่าง 3D Scanner ที่เป็น Fix Scan ล้วนๆ EinScan SE, AutoScan InspecDS-EX Pro

Handheld การสแกนแบบ Handheld จะเป็นเทคโนโลยีที่มาใหม่ พัฒนาต่อมาจาก Fix Scan สืบเนื่องจากคอมพิวเตอร์พัฒนาประมวลผลได้เร็ว ทั้งกราฟิกและการเขียนอ่านข้อมูล จึงสามารถเก็บ Shot ได้เร็วขึ้น เครื่อง Handheld จึงถือกำเนิด เครื่องใหม่จะเก็บ shot ได้ 15-30 fps หรือ 15-30 shot ในเวลาหนึ่งวินาที ทำให้ถือสแกน ลากเก็บภาพ 3มิติไปเรื่อยๆได

  • เวลาสแกนสามารถใช้มือถือสแกนชิ้นงานไปเรื่อยๆได้ ลากช้าหรือเร็วขึ้นกับ Spec ของเครื่องสแกนและความแรงของคอมพิวเตอร์ประมวลผล
  • ข้อดีคือ สแกนได้รวดเร็ว สะดวก เหมาะกับความชิ้นใหญ่
  • ข้อเสีย หากให้เทียบจริงๆแล้วคุณภาพงานสแกนสู้แบบ Fix ไม่ได้
  • สามารถสแกนคนหรือสัตว์ได้ (อย่างไรก็ตามคน ควรจะอยู่นิ่ง ยืนเฉย หรือ นั่งเฉยๆ)
  • เหมาะกับการสแกนของชิ้นใหญ่, ของที่เคลื่อนย้ายไม่ได้, คน หรือ สัตว์
  • ตัวอย่าง 3D Scanner ที่เป็น Handheld ล้วนๆ EinScan Pro 2X/2XP,EinScan Pro HD,EinScan H,EinScan HX, AoralScan Intra-Oral Scanner

Hybrid เครื่องสแกนที่รวมเอาสองความสามารถนี้เข้าด้วยกัน คือจะใช้ขาตั้งกล้องก็ได้ หรือ มือถือสแกนก็ได้ จะมาเสริมจุดเสียของ Fix Scan ที่เก็บงานได้ละเอียดแต่ช้ามีข้อจำกัด กับ Handheld Scan ที่เก็บงานได้เร็วคล่องตัว ละเอียดจะเก็บได้น้อยลง

  • เวลาที่ต้องการงานละเอียด ชิ้นงานเล็กใช้ โหมด Fix Scan
  • เวลาสแกนคน, ของชิ้นใหญ่ ของที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ ใช้โหมด Handheld Scan
  • เครื่องแบบ Hybrid จะครอบคลุมการทำงานหลาก สแกนได้ทั้งของชิ้นกลาง-ใหญ่
  • ตัวอย่าง 3D Scanner ที่เป็นแบบ Hybrid  EinScan Pro 2X/2XPEinScan Pro HD

Note : ถ้ามองในแง่การใช้งานที่หลากหลาย แนะนำให้ซื้อเป็นแบบ Hybrid เนื่องจากตอบโจทย์ขนาดการสแกนได้ตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ สแกนของได้ครอบคลุมมากกว่า ทำงานคล่องตัว และ flexible กว่าที่สำคัญราคาไม่แพงมาก มีให้เลือกหลากหลายรุ่น EinScan Pro 2X/2XP EinScan Pro HD

3. ความละเอียดในการ

ความละเอียดในการสแกนเป็นเหตุผลสำคัญในการเลือกเครื่อง 3D Scanner แต่ละคนคาดหวังความละเอียดในการสแกนไม่เท่ากัน โดยมากเครื่องสแกนเนอร์ที่ละเอียดสูงราคาจะสูงตาม แต่ไม่ใช่ความละเอียดสูงจะดีทั้งหมด หากไฟล์ละเอียดมากไปก็จะกินความจุเยอะ ทำไป Process ต่อได้ยากทำงานได้ช้า เช่น บริษัททำ Packaging ต้องการสแกนสินค้ารูปทรงต่างๆเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ ไฟล์ที่ต้องการเพียงแค่รูปร่าง เพื่อไปทำเป็น Outline กล่องสินค้าหรือ Thermoforming ก็ไม่ต้องเลือกรุ่นที่ละเอียดที่สุด กลับกัน กลุ่มธุรกิจที่ต้องการสแกนงานศิลปะรูปปั้น ต้องการรายละเอียดที่สูงให้มี Detail ใกล้เคียงกับงานต้นฉบับที่สุด เพื่อเวลาไปทำงานแต่ไฟล์ 3D ต่อสามารถทำได้น้อยที่สุด ก็ความเลือกเครื่องที่สแกนได้สูง

ละเอียดต่ำ (Accuracy >100Micron) กรณีไม่ต้องการความละเอียดในการสแกนสูงนัก เช่น ต้องการเพียงรูปร่าง ไม่ได้สนใจความพื้นผิวมากนัก หรือ การสแกนสิ่งของเครื่องการ Scale Down สแกนใหญ่ เอาไปพิมพ์ออกมาเล็กลง เช่นการปั้นดิน Model ขนาด 10 นิ้ว และพิมพ์ 3มิติ ย่อลงมาเหลือ 2 นิ้ว 1:5 เครื่องระดับนี้ก็ตอบโจทย์ได้ แถมราคาไม่แพง

รุ่นที่แนะนำ : EinScan Pro 2X/2XP, EinScan Pro HD, EinScan H (มี Infrared), EinScan HX (มี 3D Laser Scan)

ละเอียดกลาง (Accuracy 40-60Micron) กรณีหวังผลในการใช้งานทางธุรกิจเชิง Engineer, งานทางการแพทย์, งานทางศิลปะ แนะนำให้ดูความละเอียด ระดับ 50micron ไว้ สามารถไปทำงานต่อในด้าน Reverse Engineer, Inspection, งานปฏิมากรรม ความละเอียดระดับกลางนี้เป็นตลาดที่ใหญ่สุดเมื่อเทียบกับระดับต่ำ และสูง

รุ่นที่แนะนำ : EinScan Pro 2X/2XP, EinScan Pro HD, EinScan H (มี Infrared), EinScan HX (มี 3D Laser Scan)

ละเอียดสูง (Accuracy <20Micron) ส่วนมาเป็นเครื่องสแกนเฉพาะทาง เช่น เครื่องสแกนงานทางทันตกรรม, งานเครื่องประดับ Jewelry, งาน Metrology  เครื่องสแกนในระดับจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ได้ความแม่นยำสูงเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน

รุ่นที่แนะนำ : AutoScan Inspec (ความละเอียดที่ 10Micron), DS-EX Pro (เครื่องสแกนโมเดลฟัน), AoralScan Intra-Oral Scanner (เครื่องสแกน 3มิติในช่องปาก)

4. ลักษณะวัตถุที่ต้องการสแกน

  • ชิ้นงานสีดำ หากเป็นเครื่องสแกนปกติ จะต้องเตรียมพื้นผิวชิ้นงานก่อน เช่น พ่นสเปร์แป้ง กรณีที่พ่นสเปร์แป้งไม่ได้จริงๆ แนะนำเครื่องสแกนที่มี Function Laser Scan เข้าไปด้วย เช่นรุ่น EinScan HX
  • ชิ้นงานมันเงา วาว สะท้อนแสง จะต้องเตรียมผิวชิ้นงานก่อนเช่นกัน โดยมากจะพ่นสเปร์แป้ง Powder Spray หากไม่สามารถพ่นได้ หรือ ชิ้นงานพื้นผิว โลหะเป็นจำนวนมาก แนะนำสินค้าเป็น Laser 3D Scanner
  • Dental
  • Jewelry สแกนของชิ้นเล็กๆ
  • Autopart
  • Medical
  • ทั่วๆไป

ตย. การจับคู่เครื่องสแกนเนอร์ที่เหมาะสม

5. ราคา 

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่แน่หล่ะ เครื่องดีกว่า ราคาย่อมแนวโน้มแพงกว่า ในที่นี้อาจจะกล่าว เครื่องสแกนที่แนะนำในบทความนี้ราคาหลักหมื่น ถึงหลักแสน บางคนตกใจกับราคา เราท้าวความไปก่อนหน้านี้จัด 8 ปีเครื่อง 3D Scanner ใช้ในอุตสหกรรมจะราคาเกินล้านทั้งหมด มาถึง 2021 เครื่องราคาลงมาก และคุณภาพงานสแกนดีกว่าเดิม การใช้งาน User Friendly มากกว่า, ผนวกกับปัจจุบัน คอมพิวเตอร์มีความเร็วในการประมวลผลมากขึ้นมั้ง CPU เร็ว, SSD บันทึกเร็วขึ้น, การ์ดจอเร็วขึ้นมาก เป็นที่รู้กันว่า 3D Scanner เป็นอะไรที่กิน Spec เครื่องคอมมากๆ

หากการสแกนไม่ได้หวังผล ไม่ต้องการความละเอียด ลองเลือกไปทางเครื่อง Scanner จาก Iphone/Ipad Pro ที่มี Lidar (300-3000um accuracy) หรือเครื่องสแกน Low-end จาก XYZ เป็นต้น หากมองเครื่องสแกนที่ดีขึ้นมาเอามาใช้ในงาน >

หากต้องใช้เพื่อเป็นงานอดิเรก หรือ หวังผลทางธุรกิจ-ระดับอุตสาหกกรรม อาจจะพิจารณาจากข้างล่างนี้ครับ > 3D Scanner

  • ROI (Return on Investment) ราคาไม่สำคัญ เท่ากับจะคืนทุนเมื่อไหร่ มีหลายคนที่ซื้อไปสามารถคืนทุนภายใน 6เดือน – 1ปี ในขณะที่บางคนซื้อเครื่องไม่ตรงจุดประสงค์ราคาถูกกว่าแต่ใช่ไม่ได้จริง สรุปไม่คืนทุนก็มี
  • หากเปรียบเทียบรุ่นที่เราขายแล้ว Shining3D เป็นแบรนด์จากจีน และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นตัวที่รัฐบาลจีนถือหุ้นอยู่ (เหมือนกรณี Hauwei) เป็นอันดับหนึ่ง หากเทียบกับแบรนด์ US, ยุโรป เลยตัวนี้ถือว่าได้เปรียบมากๆเรื่องราคาเพราะถูกกว่าเกิน 50% ปัจจุบัน Brand Shining3D ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องสแกน 3มิติ มากเป็นอันดับต้นแซงหลายแบรนด์เก่าในยุโรป มี Head Quarter ที่เยอรมัน และ อเมริกา / เครื่อง Zone ยุโรป และ อเมริกา จะดีตรงที่มีชื่อมากกว่าเป็นแบรนด์ที่มีมานาน แต่มีข้อเสียเรื่องราคา ต้องต่ออายุไลเซนรายปี และความซ่อมที่แพงมหาศาล ส่วนเครื่องจาก Shining3D มา Disrupt อีกทีหนึ่ง
  • แต่หากให้เทียบกับแบรนด์จากจีนด้วยกัน Shining3D อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่แบรนด์ดูมีภาษีดีกว่าจากเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และรัฐบาลถือหุ้น

สรุป

  • เราต้องรู้ว่าต้องการนำไปสแกนอะไรเป็นหลัก งานของเรามีขนาดใหญ่ หรือเล็กเพียงใด ส่วนใหญ่งานเกือบทั้งหมดเป็นขนาดกลาง 10-100cm
  • ระบบการสแกนหลักๆมี 3 แบบคือ Fix Scan ตั้งนิ่งเพื่อสแกน สแกนได้เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า , Handheld ถือสแกน สแกนได้เร็ว สแกนได้ใหญ่, Hybrid คือเครื่องที่สามารถสแกนได้ทั้ง Fix+Handheld แบบ Hybrid สามารถทำงานได้หลายหลายเอาข้อดีของทั้งสองมาประยุกต์
  • ความละเอียดในการสแกนสูง ใช่ว่าจะดี เพื่อไฟล์หนัก กิน spec คอมสูง เลือกความละเอียดให้เหมาะสมกันงาน ช่วงประมาณ 50Micron เป็นช่วงที่นิยมสุด
  • ชิ้นงานบางอย่างเหมาะกันสแกนเนอร์เจาะจง เช่นเครื่องสแกนเนอร์ในช่องปาก, เครื่องสแกนเนอร์สำหรับ งานเล็กงาน Jewelry เครื่องสแกนเฉพาะเจาะจงส่วนมากจะราคาสูง เพราะทำ Software มาให้เฉพาะกับอุตสหากรรมนั้นๆ
  • ราคาเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงเป็นหลัก หากหวังผลทางธุรกิจแล้วไม่แนะนำเครื่องสแกนราคาถูก/ iphone/ xyz Scanner (เหมาะกันใช้งานเล่นๆมากกว่า) — หากจะหวังผลแนะนำต้องแต่พวกรุ่น EinScan SE ขึ้นไปเลย แนะนำรุ่นที่เหมาะซื้อถูกไป งานไม่ได้ก็ไม่ดี ซื้อแพงไปใช้ไม่ถึงก็ไม่ดี
  • หากคิดอะไรไม่ออกรุ่นที่แนะนำ ใช้ได้หลายหลายสุดคือเครื่องแบบ Hybrid ใช้ได้เกือบทุก Category ราคาอยู่ในระดับกลางๆ ใช้ได้งานได้ถึงระดับอุตสาหกรรม EinScan Pro 2X/2XP EinScan Pro HD

คำแนะนำ

  • หากการสแกนของท่านครอบคลุมวัตถุหลายขนาดทั้งขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ อยากให้แนะนำให้เลือก Scanner ที่สามารถสแกนแบบ Hybrid คือสแกนได้ทั้ง Handheld เพื่อสแกนของชิ้นใหญ่หน่อย วัตถุที่เคลื่อนย้ายลำบาก และ Fixed Scan โดยใช้ขาตั้งกล้องสแกนเป็นช็อตๆไปเรื่อยๆเพื่อเก็บรายละเอียดและความสวยงาย พวกนี้จะเป็นรุ่น EinScan Pro 2X/2XP, EinScan Pro HD
  • หากเจาะจงต้องสแกนวัตถุสีดำ หรือสแกนในที่จ้า แสง Backgroud เยอะหรือจ้าให้ลองเลือกรุ่น  EinScan Pro HD เพราะทำมาให้ยิงแสง LED ได้แรงขึ้นกว่ารุ่นอื่น ในกรณีที่ทั้งต้องการสแกนวัตถุสีดำ, วัตถุสะท้อนแสง, แสงพื้นหลังไม่สามารถควบคุมได้ แนะนำเป็นรุ่น EinScan HX เนื่องจากใช้ Blue Laser ในการสแกน Blue Laser จะมีความเข้มของแสงมากกว่า
  • EinScan HX เป็นเครื่องสแกนใหม่ที่ความสามารถของ Laser Scan (สแกนงานสีเข้ม, ผิวโลหะ, ผิวแวววาวได้) และ LED ซึ่งสามารถสแกนเก็บไฟล์สี ไม่ต้อง ติด Marker ได้ด้วย

ถามตอบ

Q : อยากได้เครื่องเดียวจบ สแกนงานได้หลายๆอย่าง ?

A : ไม่มีเครื่อง 3D Printer ไหนที่ครอบจักรวาล ขึ้นอยู่กับว่าต้องการสแกนวัสดุขนาดเท่าไหร่, ความละเอียดที่ต้องการ, และลักษณะพื้นผิว เช่น เครื่องสแกนแบบ Macro AutoScan Inspec สามารถสแกนได้ละเอียดมาก 10um แต่ขนาดใหญ่สุดที่เครื่องสแกนได้แค่ 12cm เนื่องจากการตั้งเลนส์โฟกัสไปยังชิ้นงานเป็นเลนส์ Macro อันนี้ได้ความละเอียดแต่สแกนได้แต่ชิ้นเล็กๆ

ถ้าจะให้แนะนำ รุ่นที่สแกนได้กว้างและหลากหลายที่สุด ให้มองจำพวกเครื่อง Hybrid ที่สแกนได้ทั้ง Handheld และ Fix Scan เนื่องจากสามารถรองรับงานได้ตั้งแต่ 10cm ถึง 2-3เมตร ในช่วง 10-60cm เก็บรายละเอียดได้ดีจากการ Fix Scan แต่หากชิ้นงานใหญ่กว่า 60cm หรือ สแกนคนสามารถสแกนได้ด้วยโหมด Handheld เครื่องสแกนเนอร์จำพวกนี้ได้แก่ EinScan Pro 2X/2XP, EinScan Pro HD

Q : งานที่ต้องการสแกนพ่นสเปร์ยแป้งไม่ได้ ควรจะเลือกรุ่น ?

A : ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เครื่อง 3D Scanner ระบบ LED (ไม่ว่าแสงขาวหรือแสงน้ำเงิน) แพงทางวัสดุสีเข้มและมันวาวสะท้อนแสง ต้องเป็นเครื่อง LED ที่ยิงแสงน้ำเงิน-ม่วงเข้มมากๆถึงจะสแกนวัสดุเข้มหรือมันวาวได้ ดังนั้นหากเจอพื้นผิวดังกล่าวนิยมให้พ่นสเปร์ยแป้ง เตรียมผิวให้พร้อมสแกนเป็นสีขาวด้าน สเปร์ยแป้งมี Base เป็น Alcohol ไม่มีฤทธิ์กัดสีนัก แต่หลายๆครั้งวัตถุที่มาสแกนไม่สามารถพ่นสเปร์ยแป้งได้ เช่น เป็นวัตถุโบราณมีความสำคัญมาก, เครื่องยนต์เครื่องจักร

Q : งบจำกัด ในท้องตลาดมีหลายตัวเห็นบางตัวราคาหลักพัน ใช้ได้ไหม?

A : อยู่ที่ความคาดหวังของงานสแกนครับ ปัจจุบัน 3D Scanner ราคาหลักพันยังใช้งานได้ไม่ดีนัก เช่นตัวที่ในท้องตลาด Sense หรือ XYZ Scanner ใช้หลักการเป็นแสง infrared ค่าที่ได้ไม่แม่นยำเท่าใดนัก งานที่ได้พอดูรู้ว่าเป็นอะไรแต่ไม่เห็นรายละเอียด หากมองสแกนเนอร์เพื่อหวังผลการใช้งานควรเริ่มจาก LED Light หรือ Structure Light (สิ่ง Pattern แสง ใช้กล้อง 2 เก็บ Pattern แสงที่ได้) เช่น รุ่น EinScan SE เป็นต้นไป

Q : iPhone รุ่นไหม หรือ iPad Pro มีเทคโนโลยี Lidar ทำไมต้องซื้อ 3D Scanner?

A : Lidar ของ Iphone หรือ Ipad Pro นั้นเหมาะกับการสแกน หรือ Sensor เชิง Landscape มากกว่า เช่นการตรวจวัดระยะ หากสิ่งกีดขวาง การ Mapping AR มี App ที่นำเอาความสามารถนี้มาทำเป็น 3D Scanner แต่ทำได้ยังไม่ดีนัก Software ยังมี bug อยู่ ใครสนใจไปทดลองกันกับเครื่องตัวเองได้ครับ

Q : 3D Laser Scanner จำเป็นไหม? ทำไมแพงกว่ารุ่นอื่นๆ?

A : ปกติ Laser Scanner จะแพงนิยมใช้ในธุรกิจที่ต้องการความแม่นตรง(Precision) และ แม่นยำ(Accuracy) สูง ข้อดีของระบบ Laser นั้นคือสแกนชิ้นงานผิวต่างๆได้หลายหลาย ผิวโลหะ ผิวมันเงา ผิวด้าน แม้มีหลายพื้นๆผิวในชิ้นงานเดียวกันก็สามารถสแกนได้ ส่วนเครื่อง 3D Scanner แบบ LED/Structure Light ต้องเตรียวพื้นผิวชิ้นงานหน่อยสำหรับ ผิวโลหะ ผิวดำ มันวาว ต้องพ่นสเปร์แป้งรองผิวก่อน ถ้าไม่ได้ติดเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่อง Laser สแกน


อ่านเพิ่มเติม 

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่นี่


อ่าน Review เพิ่มเติมตามแต่ละรุ่นไปที่นี่