8 จุดเด่นของ Orca Slicer

8 จุดเด่นของ Orca Slicer

ในการพิมพ์ 3 มิติ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย (นอกจากเครื่องพิมพ์ และวัสดุพิมพ์ แน่อยู่แล้ว!!!) ก็คือ Slicer program ซึ่งจะเป็นตัวช่วยแปลงไฟล์ STL ให้เป็น G-code ซึ่งเป็นภาษาของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ดังนั้นการที่เครื่องพิมพ์จะพิมพ์งานออกมาได้ดีหรือไม่ สวยมาก-น้อย แข็งแรงแค่ไหนนั้น ต้องยอมรับว่า Slicer เป็นตัวแปรที่มีสำคัญมากจริง ๆ

นับจากอดีตถึงปัจจุบันมี Slicer อยู่มากมายหลายตัว มีทั้งแบบ Open source แบบ Close source ทั้งแบบใช้งานฟรี และแบบจ่ายเงินซื้อ เช่น Cura, Simplify3D, Slic3r, ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบก็มีความสามารถแตกต่างกันพอสมควร แต่ก็มี Slicer ตัวหนึ่งที่ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 คือ PrusaSlicer ซึ่งเป็นแบบ Open source หมายความว่าใช้งานได้ฟรี มีกลุ่มสังคมออนไลน์ช่วยกันแก้ไขปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

บริษัท SoftFever พัฒนา PrusaSlicer มาเป็น Orca Slicer หรือชื่อเดิมคือ BambuStudio-SoftFever ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำตัว Orca Slicer ให้รู้จักว่ามันมีดีอะไร ทำไมถึงน่าใช้ โดยจะแนะนำในส่วนที่สำคัญ ๆ และน่าสนใจของโปรแกรมตัวนี้

Wall Generator

ขอเริ่มจากการสร้าง Wall (Wall Generator) จากเดิมเวลาพิมพ์เครื่องพิมพ์จะฉีดเส้นพลาสติกออกมาเป็นเส้นที่มีความกว้างเท่ากันหมดตลอดทั้งชิ้นงาน ทำให้บางชิ้นงานที่มีผนังบางกว่าขนาดหัวพิมพ์จะไม่สามารถพิมพ์ได้ หรือจะมีช่องว่างภายในเนื้องานมาก ทำให้งานไม่แข็งแรง ตอนนี้จะมีคำสั่งให้เลือกเป็น Arachne (อ่านว่า อะ-แร็ก-นี่) โดยที่เครื่องพิมพ์จะฉีดเส้นพลาสติกที่มีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้สามารถแทรกเข้าไปพิมพ์ในช่องว่างที่เล็กกว่าหัวพิมพ์ได้

ความจริงแล้วคำสั่งนี้มีมาตั้งแต่เป็น PrusaSlicer แล้ว แต่ก็ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดมา อย่างไรก็ดีการใช้ Arachne ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง เช่นผิวงานอาจจะไม่สวยเนื่องจากขนาดเส้นที่ไม่เท่ากัน และในส่วนที่เป็น Overhang ผิวงานจะไม่สวยเนื่องจากการทำความเร็วถูกจำกัด และขนาดของชิ้นงานอาจจะมีความแม่นยำลดลง ก็ต้องชั่งใจดูระหว่างการใช้ Arachme หรือ Classic wall generator

คำสั่ง Arachne ใน Wall Generator
ลักษณะการฉีดเส้นที่มีขนาดไม่เท่ากันในแบบ Arachne

Cut

ต่อไปเป็นความสามารถในการตัดโมเดล ปรกติ Slicer หลายตัวก็สามารถตัดโมเดลได้ แต่ก็จะเป็นการตัดตรง ๆ เท่านั้น แต่ Orca มาสารถตัดเป็น Dovetail หรือที่ภาษาช่างบ้านเราเรียกว่าแบบหางปลา โดยใช้คำสั่ง Cut หรือกดปุ่ม C มีประโยชน์มากในการทำจุดต่อของโมเดลในกรณีที่ใหญ่เกิดแท่นพิมพ์ หรือประกอบกับชิ้นส่วนคนละสี หรือคนละวัสดุ ซึ่งในคำสั่งจะมีตัวเลือกให้ปรับขนาด และตำแหน่งของหางปลาได้ในทุกส่วนประกอบเลยทีเดียว เช่นความยาว ความลึก สูง-ต่ำ องศาความเอียง

Cut model ได้ 2 แบบ

Mesh Boolean

ถัดมาเป็นความสามารถในการทำ Mesh Boolean ซึ่งถือว่าหายากในโปรแกรม Slicer ทั่ว ๆ ไป ฟังก์ชั่นนี้นับว่ามีประโยชน์มากทีเดียว การทำ Mesh Boolean จะมีให้ 3 แบบคือ

  • Union
  • Difference
  • Intersection

การทำก็ไม่ยาก โดยเลือก object 2 ชิ้น แล้วกดเมาส์ปุ่มขวา และเลือก Assemble แล้วใช้คำสั่ง Mesh Boolean หรือกดปุ่ม B ที่คีย์บอร์ด จากนั้นก็เลือกวัตถุที่จะทำ Mesh Boolean (สามารถเลือกว่าจะลบวัตถุที่ถูกตัดออกไปแล้วหรือไม่ด้วย) แล้วกดปุ่ม Union, Difference, หรือ Intersection ตามต้องการ

Mesh Boolean

Seam painting

อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ช่วยให้งานสวยขึ้นคือ Seam painting หรือกดปุ่ม P เป็นการกำหนดจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของเลเยอร์ ซึ่งปรกติจะเห็นเป็นรอยต่อ บางครั้งรอยต่อ หรือ seam นี้ไปปรากฏอยู่บนส่วนที่เราไม่ต้องการทำให้เมื่อพิมพ์โมเดลออกมาแล้วดูไม่สวยงาม เราก็จะใช้คำสั่งนี้เพื่อกำหนดจุดที่ต้องการให้ seam นี้ไปอยู่ การทำก็ง่าย ๆ โดยใช้เมาส์ลากเส้นตรงตำแหน่งที่ต้องการให้ seam ไปอยู่แค่นั้นเอง

Seam painting

Color Painting

บางครั้งเราต้องการให้โมเดล STL ที่โหลดมาสามารถพิมพ์เป็นสีหลายสีได้ เราไม่ต้องไปแยกส่วน หรือเขียนแบบใหม่ เพราะ Orca มีคำสั่งระบายสีมาให้ชื่อ Color Painting หรือกดปุ่ม N จะมีเครื่องมือระบายสีให้เลือกใช้หลายตัวเลย เช่นแปรงวงกลม แปรงทรงกลม สามเหลี่ยม เลเยอร์ ถังสี ปิดช่องว่าง ลองเล่นกันดูได้เลย

Color Painting

Emboss

ต่อมาก็จะเป็นการใส่ตัวหนังสือ สามารถใส่ไปเป็น object ต่างหาก หรือจะให้ไปวางลงบนผิวงานของโมเดลอื่นก็ได้ มีตัวเลือกให้ปรับแต่งจนกว่าจะพอใจ แล้วยังเลือกได้ว่าจะให้ตัวหนังสือนี้นูน (Join) ออกมา หรือจมลงบนโมเดล (Cut) คำสั่งนี้คือ Emboss หรือกดปุ่ม T เท่าที่ลองใช้ดูคำสั่งนี้อาจจะมีลูกเล่นน้อยไปหน่อย

Emboss

Measure

เรายังสามารถวัดระยะต่าง ๆ หรือรัศมีของส่วนโค้งในโมเดลได้ด้วยคำสั่ง Measure หรือกดปุ่ม U ช่วยให้สะดวกมากขึ้น เราสามารถเช็คขนาดก่อนพิมพ์ได้เพื่อป้องกันความผิดพลาด

Measure

Assembly View

สุดท้ายคือคำสั่ง Assembly View ในกรณีที่เรามีการพิมพ์โมเดลหลาย ๆ ชิ้น ที่ไม่สามารถลงได้ใน 1 แท่นพิมพ์ หรือมีโมเดลที่ใช้วัสดุไม่เหมือนกัน และอาจจะต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกัน คำสั่งนี้ช่วยให้ไม่ต้องสร้างไฟล์มากมาย โดยเอามารวมกันในไฟล์เดียว การเพิ่มแท่นพิมพ์ทำได้โดยกดปุ่ม Add Plate บนแถบคำสั่งด้านบน

Assembly View

ยังมีข้อดีใน Slicer ตัวนี้อีกมาก เท่าที่ยกมาให้ชมเป็นส่วนหลัก ๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น อยากให้ทุกท่านได้ลองใช้ Orca Slicer ตัวนี้ดูจะเห็นว่ามีความสามารถในการพิมพ์ 3 มิติ ได้อย่างชัดเจน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สนุกกับการพิมพ์ 3 มิติได้มากขึ้น และลดปัญหาในการพิมพ์ลงได้นะครับ