**ขณะเครื่องพิมพ์ FullScale มีหลายขนาด เช่น 30*25*30 ถึง 40*30*52cm ซึ่งแตกต่างกันเพียงขนาด จึงขออนุญาติ ใช้ Review เดียวกันครับ**
คราวนี้มาถึงคราวของเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่กันดูบ้างนะครับ FullScale Max ขนาดที่พิมพ์ได้อยู่ที่ 250*250*300mm (กว้าง*ยาว*สูง)
เครื่องพิมพ์ FullScale Max300 จัดอยู่ในเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่คือ ประมาณ 1 ฟุต เป็นระบบ FDM หรือ Fused Deposition Modeling เช่นเดี่ยวกับเครื่อง Size เล็กทั่วๆไป ของ MakerBot, Cube, Ultimaker หรือ RepRap
โดยทั่วไปแล้วเครื่องพิมพ์สามมิติมีข้อจำกัดอย่างมากในการสร้างเครื่องให้ใหญ่ เนื่องจากหากสร้างเครื่องให้มีขนาดใหญ่แล้วผลงานที่พิมพ์ออกมานั้นจะไม่ละเอียด, ได้ Resolution ต่ำเนื่องจาก(สังเกตุได้จาก 3D printer ขนาดใหญ่ที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด) หากสายพานต้องเคลื่อนที่ในระยะที่ไกลขึ้นจะมีปัญหาการคลาดเคลื่อนที่มากขึ้น(สายพานมีความยีดหยุ่นในตัว) แต่เครื่อง FullScale Max300 ออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อแก้ปัญหานี้โดยใช้สองหลักการ
- ย้ายมอเตอร์ขับเส้นพลาสติกทั้งสองไปที่ด้านหลังของตัวเครื่อง หัวฉีดของ FullScale Max300 ไม่มีมอเตอร์ขับเส้นพลาสติก จึงเบา และวิ่งได้เสถียรกว่ากรณีที่มีมอเตอร์ขับเส้นพลาสติกที่หัวฉีด
- แกนระนาบ XY ใช้แกนเหล็กทั้งหมด 6 แกน(X 3 แกน, Y 3 แกน) แทนที่จะเป็นอย่างละสองแกนแบบเครื่องพิมพ์ทั้งไปที่หาได้ตาท้องตลาด
ตัวเครื่อง FullScale Max300 มีขนาดค่อนข้างมากคือมากกว่า 40 Kg(อาจต้องใช้สองคนยก) ทำจากเหล็กสีดำด้านหนาพิเศษ เครื่องจึงแทบจะไม่สั่งไหวเลยขณะพิมพ์
ส่วนประกอบ
1. Frame โครงสร้างจากเหล็กสีดำหนา 100% โครงสร้างแข็งแรงมาก
2. Cover อะคริลิกใส สามด้านของตัวเครื่อง ด้านหน้า และด้านข้างทั้ง
3. Moving Axis เครื่องนี้เคลื่อนที่ของหัวฉีดในแนวระนาบ XY โดยมีแกนเหล็ก 8 แท่ง(แกนX Y อย่างละ 3, Z แกน 2 แท่ง) การที่หัวฉีดวิ่งอยู่ในระนาบ XY และฐานเคลื่อนที่ลงในแกน Z นั้นทำให้พิมพ์ได้แม่นยำกว่าเครื่องพิมพ์ ที่หัวฉีดเคลื่อนที่ในทุกแกน หรือ เครื่องที่ฐานพิมพ์เคลื่อนที่ 2 แกน
มอเตอร์จะมีทั้งหมด 3 ตัวในการขับเคลื่อนหมุนแต่ละแกน
4. Headed Bed หรือฐานรองพิมพ์ เป็นกระจกหนาสีแดง (ลักษณะเดียวกับกระจกที่ใช้ทำเตาไฟฟ้า) ใต้ฐานรองพิมพ์มีน็อตเพื่อปรับระดับฐานพิมพ์
5. Dual Extruders หัวพิมพ์ Mankati FullScale XT มีหัวฉีดสองหัว ประกอบด้วยด้วยส่วนประกอบหลายส่วนดังนี้
- หัวฉีดทองเหลือง 0.4mm 2 หัว
- Heater ทำความร้อน พร้อม Thermocouple วัดอุณหภูมิ 2 ชุด
- Cooling Fan 2 ตัว หรือ พัดลมเป่าชิ้นงานโดยตรง สามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้
6. Feeding Motor หรือมอเตอร์ส่งเส้นพลาสติก ออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งด้านหลังของเครื่องมีทั้งหมดสองตัว โดยเส้นพลาสติกที่ใช้นั้นเป็น Filament ขนาด 3.0mm
7. LCD and Controller จอ LCD สีเขียวแสดงสถานะและเมนูของเครื่อง ปุ่มบังคับใช้งานโดยการหมุน และกดลง (หลักการเดียวกับ iPod)
8. LED ส่องสว่าง
9. Power Switch อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง
10. SD Card Slot อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
11. MainBorad Power Supply อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง
หลักการทำงาน การใช้งาน
หลักการทำงานของเครื่องFullScale Max300 นั้นเหมือนกับ Creator Pro, Dreamer ต่างกันเพียงว่าเครื่อง FullScale XT นั้นจะ Feed เส้นพลาสติกมาจากด้านหลังของตัวเครื่อง
เครื่องทำงานสัมผัสกันทั้ง 3 แกนคือ ระนาบ XY ที่หัวฉีดเคลื่อนที่ และ ในแนวแกนตั้ง Z ทำงานเคลื่อนที่ Heated bed ให้เคลื่อนที่ลง ชิ้นงานจะวางอยู่บน Heated bed จะถูกพิมพ์จากล่างสุดจนถึงส่วนยอดสุด การฉีดเส้นพลาสติกนั้นจะวาดที่ละชั้น จนเสร็จหนึ่งชั้น จึ่งจะเริ่มทำให้ชั้นต่อไป จนครบ Layer ทั้งหมด จำนวนเลเยอร์นั้นสัมพันธ์ กับการตั้งค่าความสูงของ layer หากเลือก 0.1mm จะได้ชิ้นงานที่มีความสวยกว่า 0.2mm แต่ใช้เวลานานกว่านั้นเอง ตัวอย่าง เช่นหากชิ้นงานมีกว่าสูง 100mm(10cm) และพิมพ์ด้วย Layer Height 0.2mm ก็จะมีจำนวนเลเยอร์ทั้งหมด 500 ชั้น เป็นต้น
การจะพิมพ์ชิ้นงานนั้นเราต้องมี Model 3D มาก่อนซึ่งไฟล์มาตราฐานที่เครื่อง 3D Printer ทุกเครื่องใช้คือ .STL หรือ .OBJ ซึ่งสามารถ Export จากโปรแกรมสร้าง 3D แทบทุกตัวไม่ว่าจะเป็น Rhino, SolidWork, 3D Max, SketchUp(+Plugin), AutoCAD, Maya เป็นต้น การจะได้ไฟล์มานั้นอาจจะมาได้จากหลายวิธี เช่น เราสร้างไฟล์ขึ้นมาเอง, หรือโหลดเอาได้จาก website เช่น www.thingiverse.com , หรืออาจจะได้มาจากการแสกนผ่านเครื่อง 3D Scanner เช่น Sense เป็นต้น
เมื่อได้ไฟล์มาแล้ว สามารถเปิดไฟล์นี้ผ่านโปรแกรม MankatiUM (CURA นั้นเอง) เราสามารถกำหนดคุณภาพการพิมพ์ชิ้นงาน และสั่งพิมพ์เป็นอันจบ โปรแกรม MankatiUM นั้นใช้งานเหมือน Program CURA เลยเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย, เร็ว, และกำหนดค่าต่างๆได้ดีที่สุดในขณะนี้ (แนะนำให้พิมพ์จาก SD Card มากกว่าครับเนื่องจากหากพิมพ์ผ่านเครื่องคอม อาจจะมีปัญหาได้เนื่องจาก เครื่องนี้รับสัญญาณแบบ Real Time หากเครื่องคอมแฮงค์ หรือ Sleep ขึ้นมาเป็นอันจบครับ เนื่องจาก Mankati FullScale XT ไม่มี Memory BuildIn ชิ้นงานที่พิมพ์จะหยุดและเสียเลย)
ปล.เราไม่ได้แถมโปรแกรมสร้างไฟล์ 3D Model มาให้นะครับ(เป็นโปรแกรมลิขสิทธิ์ทางลูกค้าต้องหามาใช้เองครับ มีโปรแกรมหลายตัวให้โหลดใช้ฟรี ซึ่งแล้วแต่ความถนัดของลูกค้า) เราให้แต่ Program ที่ใช้สำหรับพิมพ์ชิ้นงาน 3D Model
โปรแกรม
MankatiUM (Based on CURA)
โปรแกรมที่พัฒนาต่อมาจาก CURA ของ Ultimaker ซึ่งจัดเป็นโปรแกรมพิมพ์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากทำงานได้เร็ว มีลูกเล่นหลากหลาย ปรับแต่ง Function การพิมพ์ได้มาก (มากกว่า MakerBot และ FlashPrint) ตัวอย่างบางส่วนจาก Function ที่น่าสนใจเช่น
- สามารถกำหนดเวลาหรือตำแหน่งล่วงหน้า เพื่อให้เครื่องหยุดเพื่อเปลี่ยนเส้น, เปลี่ยนความเร็วในการพิมพ์ หรือเปลี่ยนอุณภูมิได้ เช่น กำหนดว่าเมื่อพิมพ์ไปสูง 20mm ให้เปลี่ยนความเร็วในการพิมพ์ให้สูงขึ้น และอุณภูมิที่พิมพ์มากขึ้น เป็นต้น
- การแสดงชิ้นงานในช่วง Over Hang หรือ ส่วนที่อาจจะต้องการ Support
- Preview ชิ้นงานแบบ Model กึ่งโปร่งแสง
- Preview เวลาที่ใช้, น้ำหนักพลาสติกที่ใช้, หรือความยาวของเส้นพลาสติก ให้ดูแบบ Real Time
- Function ในการดึงเส้นพลาสติกกลับ หากมีการวิ่งของหัวฉีดในหลายๆจุด (ลดปัญหาเส้นพลาสติกส่วนเกินไหลออกมา)
ฟังชั่นปกติ ก็มีมาครบ
- Object Infill คือการเลือกว่าจะพิมพ์ชิ้นงานแบบกลวง(0%), กึ่งกลวง, แบบตัน(100%)
- Layer Height คือการเลือกความสูงของ Layer ในการพิมพ์ หากค่านี้น้อยจะพิมพ์ออกมาจะละเอียดกว่า แต่ใช้เวลามากกว่า
- Number of Shells คือการเพิ่มจำนวนของเปลือกคลุมชิ้นงาน สร้างความแข็งแรงและขึ้นรูปได้ดีกว่า แต่ใช้เวลาพิมพ์นานขึ้น เช่นถ้าเลือกค่านี้เป็น 1 เวลาพิมพ์จะมีเปลือกคลุมอีก 1 ชั้นเพิ่มขึ้นมา
- Temperature สามารถกำหนดค่า ได้ทั้งหัวฉีดขวา, ซ้าย และ ฐานพิมพ์
- Speed สามารถกำหนด Speed ได้หลายจุดมาก เช่นความเร็วในการพิมพ์ ความเร็วในการพิมพ์ 3 เลเยอร์แรก, ความเร็วในการพิมพ์ Support, ความเร็วในการพิมพ์ Infill เป็นต้น
จุดเด่น
- พิมพ์ชิ้นงานได้ขนาดใหญ่ 250*250*300mm (จนบางครั้งต้องใช้เส้นพลาสติก 2 ม้วนต่อการพิมพ์หนึ่งชิ้น)
- MankatiUM (CURA) ง่าย, เร็ว และ Function การทำงานเยอะที่สุด (เราสามารถกำหนดค่าต่างๆ ได้มากที่สุด)
- สามารถพิมพ์ชิ้นงานได้ละเอียดสูงสุดถึง 20 Micron
- งานพิมพ์ละเอียด งานสวย
- 2 หัวฉีด + ฐานพิมพ์ทำความร้อนได้ ปรับอุณหภูมิอิสระแยกจากกัน
- โครงสร้างแข็งแรง
สรุป
FullScale Max300 ตอบโจทย์การทำงานที่ต้องการ Size ขนาดใหญ่ สามารถพิมพ์ชิ้นงานได้ต้องแต่ชิ้นเล็กๆ จนขนาดเต็ม Size 250*250*300mm งานที่ได้มีคุณภาพ และสวยงาม จึงเหมาะแก่การใช้งานในระดับ Professional
ด้วยราคาแล้วจัดว่าไม่แพง หากเทียบกับเครื่อง Printer ขนาด Size ใกล้เคียงกันที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด เช่น Ultimaker ซึ่งราคาเกินแสนไปไกล งานประกอบจัดว่าดีและค่อนข้างแข็งแรงมาก ด้วยน้ำหนักมากกว่า 40 Kg
หากไม่ได้ติดเรื่องงบประมาณมากนักเครื่องนี้เป็นตัวที่น่าสนใจมาก เหมาะกับ SMEs หรือ บริษัททั่วไป หรือ จะใช้ตามบ้านก็ไม่เสียหายครับ