จากประสบการณ์ทำเครื่อง DLP Printer เองและลองใช้มาหลายยี่ห้อแล้ว ผมขอสรุปความรู้เท่าที่เข้าใจพอสังเขปให้ทุกคนทราบ เนื่องจากมีข้อมูลในเว็บมีน้อยมาก ยิ่งในภาษาไทยยิ่งไม่มีครับ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยหลายๆ คนคลายข้อข้องใจเรื่องการเลือกเครื่อง DLP/SLA Printer ไม่มากก็น้อยนะครับ
หลายท่านยังไม่รู้จักเครื่อง DLP / SLA Printer สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
การจะเลือกซื้อ DLP หรือ SLA Printer หรือเครื่องพิมพ์สามมิติระบบน้ำเรซิ่น ให้ดูสเปคดังนี้ครับ
XY Resolution หรือ Pixel Resolution (ยิ่งน้อย ยิ่งละเอียด)
ค่านี้เป็นตัวกำหนดความละเอียดของงานพิมพ์ จัดว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ XY Resolution คือว่าที่จุดขนาด Pixel ของแสง ยกตัวอย่างโปรเจคเตอร์ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 คือมีจุดในแนวนอน 1920 จุดแล้วตั้ง 1080 จุดรวมทั้งหมด 2ล้านจุด แต่ละจุดนั้นมีขนาดเท่าไร นั้นคือขนาด XY Resoltuion นั้นเอง (ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงวิธีการคำนวณนะครับ) ยิ่งมีขนาดของจุด หรือ Pixel ยิ่งเล็กก็จะพิมพ์งานยิ่งละเอียด
กล่าวถึงจุดนี้หลายคนอาจจะงง ผมขอเปรียบเทียบส่วนนี้กับ Lego ครับ หาก Resolution ใหญ่ๆเราจะเทียบกับ Lego สำหรับเด็กเล็กที่บล็อกใหญ่ไม่ให้เด็กกลืนได้ หาก Resolution ละเอียดๆ จะเทียบกับ Lego สำหรับเด็กโตจะมีขนาดเล็กกว่ามาก หากเอา Lego ของเด็กเล็ก กับ Lego ของเด็กทั่วไปมาต่อเป็นทรงกลมเหมือนกัน Lego ของเด็กจะดูไม่ค่อยกลมเป็นเหลี่ยมๆ แต่ Lego ของเด็กโตจะดูเป็นทรงกลมมากกว่า หากเครื่องพิมพ์ที่ละเอียดสุดๆมี XY Resolution เล็กๆก็จะเหมือน Nano Block ต่อออกมายิ่งสวย
ตัวอย่าง Resolution เครื่องดังๆมีดังนี้
– Form2 140micron
– Moonray 100Micron
– MiiCraft+ / Projet1200 56Micron
– EnvisionTec Perfactory Aureus 43Micron
Z Resolution (ยิ่งน้อย ยิ่งละเอียด)
ส่วนนี้ไม่ค่อยจำเป็นมากนัก เนื่องจากทุกๆผู้ผลิต ทุกๆเครื่องสามารถทำความละเอียดได้อยู่แล้ว และไม่ต่างกันนัก โดยความละเอียดที่นิยมในการพิมพ์มักอยู่ที่ 20-30 micron ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าการพิมพ์ได้
ขนาดพิมพ์ (ยิ่งมาก ยิ่งดี)
ขนาดพิมพ์คือขนาดชิ้นงานใหญ่ที่สุดที่เครื่องสามารถพิมพ์ออกมาได้ แน่นอนขนาดใหญ่เท่าใดยิ่งดี อย่างไรก็ตามขนาดพิมพ์จะสวนทางกับความละเอียดในการพิมพ์ XY Resolution
ตัวอย่างขนาดพิมพ์ เครื่องดังๆมีดังนี้
Form2 145 x 145 x 175mm
Moonray 127 x 81 x 228mm
MiiCraft+ / Projet1200 43 x 27 x 180mm
EnvisionTec Perfactory Aureus 60 x 45 x 100mm
Light Source หรือ แหล่งกำเนิดแสง
แหล่งกำเนิดแสง มีหลายแบบ แนะนำหลักๆให้เลือกแบบที่ฉายแสงออกมาเป็น Pure UV ไม่เอาแสงอื่นมาด้วย เนื่องจากเรซิ่นจะแข็งตัวในช่วงแสง UV เครื่องหลายๆยี่ห้อในท้องตลาดนั้นใช้ Projector ฉายภาพทั่วไปมาทำเป็น DLP Printer โดยจะฉายแสงออกมาทั้งหมด 7 ย่านสี ซึ่งแสง 6 ย่านสีที่ไม่ได้ใช้งานจะทำให้ Pixel ไม่คม อีกทั้งเครื่องแบบปกติจะร้อนและมีอายุการใช้งานสั้นกว่ามาก
ตัวอย่าง Light Source เครื่องดังๆมีดังนี้
Form2 UV Laser วาดแสง
Moonray UV Projector
MiiCraft+ / Projet1200 UV Projector
EnvisionTec Perfactory Aureus UV Projector
Wavelength และ Resin ที่ใช้ได้
โดยทั่วไปเครื่อง DLP Printer จะปล่อยแสงออกมา 360-415nm และเรซินส่วนใหญ่ในท้องตลาดก็จะใช้กับความยาวแสงช่วงนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนนี้อาจจะดูควบคู่ไปด้วย โดยทั่วไปเครื่องที่ขายในท้องตลาดจะ Lock ให้ใช้กับเรซิ่นของตน ซื้อเครื่องต้องซื้อเรซิ่นของตนด้วย ปรับค่าต่างๆเองไม่ได้ แต่ก็มีอยู่หลายยี่ห้อ สามารถใช้เรซิ่น Resin Third Party ได้ ซึ่งมีข้อดีทั้ังสองแบบ แบบ Lock Spec คือไม่ต้องปรับอะไรมากมาย ส่วนเครือง Open Source จะได้เปรียบเรื่องความหลากหลาย ยืดหยุ่น แต่ต้องใช้ความรู้ของผู้ใช้งานเช่นกัน
Technology อื่นๆ
บางยี่ห้ออ้างว่าของตนเองใช้ง่าย ไม่ต้อง Calibrate ให้วุ่นวาย, บางยี่ห้อบอกว่ามีระบบทำให้ผิวดูเนียนเป็นต้น
ราคา
ราคาอันนี้ต้องเปรียบเทียบกันเองครับ ส่วนมากคุณภาพสูงจะราคาสูง แต่ก็ไม่แน่เสมอไป
Form2 1-2แสน
Moonray 1-2แสน
MiiCraft+ / Projet1200 1-2แสน
EnvisionTec Perfactory Aureus หลายล้านบาท
สรุป
ส่วนสำคัญที่สุดที่ทุกคนต้องดูคือ “XY Resolution” และ “ขนาดพิมพ์” เช่น เครื่องพิมพ์สามมิติที่ไว้ใช้พิมพ์งานเครื่องประดับจริงๆตัวแพงมากๆ ยี่ห้อ EnvisionTec Perfactory Aureus มีขนาดพิมพ์แค่ 60mm*45mm แต่มีความละเอียด XY Resoltuion ถึง 43micron เครื่องนี้ราคาแพงมากหลายล้านบาท แต่งานพิมพ์คุณภาพดีใช้กับงานเครื่องประดับ Jewelry ส่วนตัวที่ศึกษามาเครื่องที่เหมาะกับ
– งาน Jewelry ต้องการความละเอียดสูงสุด ควรมี XY Resolution ต่ำกว่า 60micron (ยิ่งน้อยยิ่งดี)
– งานทันตกรรม และงานทางการแพทย์ ต้องการความละเอียดรองลงมา ควรมี XY Resolution ต่ำกว่า 80micron (ยิ่งน้อยยิ่งดี)
– งานอื่นๆ แล้วแต่เลือก ต้องคำนึงถึงขนาดที่พิมพ์ได้เป็นหลัก
ขนาดพิมพ์จะแปรผกผันกับความละเอียด XY ถ้าละเอียดมากขนาดพิมพ์ก็จะเล็กตามไป ถ้าละเอียดและพิมพ์ได้ใหญ่ด้วยก็จะแพงมากๆ
ส่วนสำคัญรองลงมานั้นเป็น “Light Source”, “Wavelength” และ “Technology อื่น”
Light Source อันนี้จำเป็นต้องดูเช่นกัน แนะนำต้องเป็น Light Source ที่ออกมาเป็นย่านความถี่เดียวกับ Resin ไม่ว่าจะเป็น SLA ที่เป็นเลเซอร์หรือ DLP ที่เป็น Projector ควรจะเลือกแบบที่ออกแสงออกมาช่วง UV เท่านั้น (360-410nm) หาก Light Source เป็นโปรเจคเตอร์ฉายภาพธรรมดาจะฉายช่วงแสงที่ไม่ได้ใช้มาด้วย คือย่านสี คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เป็น Noise ทำความคุณภาพพิมพ์ไม่ชัด และอายุการใช้งานต่ำกว่าเนื่องจากความร้อน
Technology อื่นๆก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจ เช่น Program สร้าง Support เองได้ไหม, สั่งการยุ่งยากหรือไม่, มีโหมดทำให้ผิวเนียนหรือไม่