David Miao ผู้ทำงานด้าน 3 มิติ หรือที่รู้จักในชื่อ @3DDIYDave บน Instagram และ YouTube เป็นผู้ผลิตและผู้สร้างเนื้อหาดีดีที่ทำงานเกี่ยวกับการพิมพ์ 3 มิติ รวมไปถึงงานไม้ และมีการสแกน 3 มิติทั่วร่างกายของผู้คนประมาณ 200 รายการด้วยเครื่องสแกน 3 มิติ SHINING 3D
สำหรับในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าเขาใช้เครื่องสแกน Einstar 3D Scanner , ซอฟต์แวร์ Meshmixer และเครื่องพิมพ์ 3 มิติเรซินความแม่นยำสูง SLA 3D Printer ทำอย่างไร เพื่อให้กระบวนการสแกน 3 มิติ ทั้งตัวและพิมพ์ร่างกาย 3 มิติ ได้อย่างสวยงามและสมบรูณ์แบบ
David Miao
ขั้นตอนการทำงานของการสแกน 3 มิติและพิมพ์โมเดล 3 มิติ
3 เคล็ดลับในการสแกนตัวคนทั้งตัวด้วย Einstar 3D Scanner
เมื่อใช้ Einstar เราสามารถสแกน 3 มิติตัวคนทั้งตัวได้ในเวลาประมาณ 2 – 3 นาที และมีโหมดที่สามารถสแกนเส้นผมได้ที่ช่วยให้เราสามารถรับข้อมูลรายละเอียดของเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น เคล็ดลับการเคลื่อนไหวระหว่างการสแกนอาจจะทำให้เครื่องสแกนสูญเสียการติดตาม หรือ Tracking Lost และอาจส่งผลให้เกิดเอฟเฟกต์สองเท่าหรือภาพซ้อน ดังนั้น ความท้าทายหลักคือการให้บุคคลนั้นยืนหรือนั่งนิ่งๆ และเลือกท่าทางที่สามารถถือได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก แต่เคล็ดลับคือการที่จะต้องบอกกล่าวและต้องให้ผู้ที่ถูกสแกนจริงๆ มีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
สแกน 3 มิติตัวคนทั้งตัวด้วย EinStar 3D Scanner
ขั้นตอนนี้จะแสดงให้เราเห็นขั้นตอนการสแกนคนทั้งตัวซึ่ง David ได้แบ่งปันเคล็ดลับในการสแกนร่างกายมนุษย์
1. เริ่มจากใบหน้าก่อนอันดับแรก เริ่มต้นจากใบหน้าและไล่ลงมาจากส่วนบนของศีรษะไปจนถึงเท้า
2.สแกนช้าๆ ในบริเวณที่มีรายละเอียดมากขึ้น เช่น ใบหน้า มือ และเท้า
3. อย่ากลับไป ระวังอย่าย้อนกลับไปสแกนพื้นที่ซ้ำ เพราะอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนได้ ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์สามารถดำเนินการสแกนต่อในภายหลังได้
การประมวลผลข้อมูลของโปรแกรม Einstar Software และ Meshmixer
การประมวลผลด้วยโปรแกรม EXStar
เราสามารถทำการประมวลผลข้อมูลง่ายๆ ผ่าน EXScan เช่น ซ่อมรู ลบส่วนที่ไม่ต้องการออก และทำให้โมเดลดูเรียบเนียนขึ้น หลังจากนั้นสามารถส่งออก ไฟล์งาน .STL สำหรับการพิมพ์ 3 มิติหรือประมวลผลเพิ่มเติมในโปรแกรมอื่นได้
ภาพการประมวลผลข้อมูล 3D Model ในโปรแกรม ExScan
ปรับรายละเอียดให้ดูดียิ่งขึ้นและอุดรูปิดรอยรั่วต่างๆด้วย Meshmixer
สำหรับโมเดลที่สองมีนิ้วและเส้นผมขาดหายไป David จึงใช้ Meshmixer เพื่อทำการปรับแต่งเพิ่มเติม
ภาพการประมวลผลข้อมูล 3D Model ในโปรแกรม MeshMixer
โชคดีที่มือทั้งสองข้างสมมาตรกัน ประการแรก David คัดลอกมือที่สมบรูณ์ 1 ข้าง จากนั้นเขาก็ตัดมือและเส้นผมของแบบจำลอง และเติมลงในส่วนที่ขาดหายไปของแบบจำลองดั้งเดิม ด้วยการใช้เครื่องมืออย่าง Smooth Brush และ Move Tool เพื่อปรับแต่ง David ก็สร้างแบบจำลองนี้ได้สำเร็จ
ใช้ Meshmixer เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปหรืปรับแต่งในส่วนที่ต้องการ
พิมพ์โมเดลที่สร้างเสร็จด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบเรซิ่นความละเอียดสูง
ขั้นตอนสุดท้าย David ได้ทำการตั้งตั้งไฟล์และสั่งพิมพ์ 3 มิติ กับเครื่องพิมพ์ 3 มิติระบบเรซิ่น ความละเอียดสูงและผลลัพธ์ที่ได้ดังภาพ
โมเดล 3 มิติ สำเร็จรูปจากเครื่อง Resin 3D Printer
