3D Printer ตั้งค่าอุณหภูมิยังไงให้เหมาะสมกับ Material ของเรา !

3D Printer ตั้งค่าอุณหภูมิยังไงให้เหมาะสมกับ Material ของเรา !

สวัดดีครับ บทความนี้จะมาบอกการตั้งค่า Matterlal ให้ดูสวยดูดี บ้างคนอาจจะตั้งค่าไม่เหมาะสมกับวัสดุส่งผลให้เกิด Layer ไม่สวย บ้างทีเราอาจจะโทษเครื่องปริ้นเราแต่เราไม่เคยรู้เลยว่าการตั้งค่าอุณหภูมิ Matterlal นั้นสำคัญมาก ส่งผลอะไรมากมายและที่สำคัญเกิดอาการหัวตันของหัวฉีดอีกด้วย ถ้าหากเป็นแบบนั้นแนะนำให้บทความนี้อาจจะช่วยให้ทุกคนทำงานปริ้นได้ดีมากขึ้น และข้อมูลที่จะแนะนำผมขอเป็น Matterlal  ที่นิยมใช้กันอย่างแพรหลายแล้วกันนะครับ เช่น PLA /ABS/ Elastic /PETG/ Carbon Fiber/Polycarbonate ครับ

  1.  PLAการตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น PLA สามารถส่งผลเสียได้หลายด้าน เช่น:
    1. คุณภาพของการพิมพ์: อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้เส้น PLA ไหลได้มากเกินไป ส่งผลให้รายละเอียดหายไปหรือมีการไหลล้นในส่วนที่ไม่ต้องการ ขณะที่อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้การเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี เกิดปัญหาการแยกชั้น (delamination) ได้
    2. การเกิดเส้นใยไหม: อุณหภูมิที่สูงอาจทำให้เส้น PLA เกิดเส้นใยไหมหรือเผาไหม้ ส่งผลให้ได้สีที่ไม่สม่ำเสมอหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
    3. การแปรรูป: หากอุณหภูมิต่ำเกินไป การพิมพ์อาจทำให้เส้น PLA แข็งตัวเร็วเกินไป ส่งผลให้การติดฐาน (bed adhesion) ไม่ดี
    4. ความแข็งแรงของชิ้นงาน: ชิ้นงานที่พิมพ์ออกมาอาจมีความแข็งแรงต่ำลง หากอุณหภูมิในการพิมพ์ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานในอนาคต

    การตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม (ประมาณ 190-220 องศาเซลเซียส) จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการพิมพ์ PLA!

  2. ABS

    การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น ABS อาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น:

    1. การหดตัวและการบิดงอ: ABS มีแนวโน้มที่จะหดตัวเมื่อเย็นตัวลง หากอุณหภูมิฐาน (bed temperature) ต่ำเกินไป จะทำให้เกิดการบิดงอหรือหลุดออกจากฐานได้ง่าย
    2. คุณภาพผิว: อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้ชิ้นงานมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพผิว เช่น เกิดรอยหยาบหรือมีฟองอากาศ ในขณะที่อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้ผิวไม่เรียบและเกิดการเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี
    3. การแปรรูปไม่สมบูรณ์: หากพิมพ์ที่อุณหภูมิต่ำเกินไป อาจทำให้การหลอมละลายไม่เพียงพอ ทำให้ชิ้นงานไม่แข็งแรง และการเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี
    4. กลิ่นและควัน: ABS มักจะปล่อยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และควันเมื่อพิมพ์ หากอุณหภูมิสูงเกินไป จะทำให้เกิดปัญหานี้มากขึ้น
    5. ความแข็งแรง: ชิ้นงานที่พิมพ์ด้วยอุณหภูมิไม่เหมาะสมอาจมีความแข็งแรงต่ำหรือไม่ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว

    การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 220-250 องศาเซลเซียส) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพและความแข็งแรงที่ดี!

    3. Elastic

    การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น Elastic (เช่น TPU) สามารถส่งผลเสียได้หลายประการ เช่น:

    1. การยืดหยุ่นไม่เพียงพอ: อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจทำให้เส้นไม่หลอมละลายได้ดี ส่งผลให้ชิ้นงานไม่ยืดหยุ่นตามที่ต้องการ
    2. การติดฐานไม่ดี: หากอุณหภูมิฐานต่ำเกินไป ชิ้นงานอาจไม่เกาะติดกับฐานอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการหลุดออกจากฐานหรือบิดงอได้
    3. การเกาะกันระหว่างชั้น: อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้การเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี ส่งผลให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงต่ำและเกิดปัญหาการแยกชั้น
    4. การอุดตันในหัวพิมพ์: อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้เส้น Elastic มีการไหลออกมากเกินไปหรือเกิดการไหม้ ทำให้เกิดปัญหาอุดตันในหัวพิมพ์
    5. คุณภาพผิว: อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวของชิ้นงานมีรอยหยาบหรือไม่เรียบ

    การตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม (ประมาณ 210-230 องศาเซลเซียส) จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการพิมพ์ด้วยเส้น Elastic!

    4.PETG

    การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น PETG อาจส่งผลเสียได้หลายประการ เช่น:

    1. การเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี: อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้ชั้นของ PETG ไม่เกาะกันได้ดี ส่งผลให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงต่ำและเกิดปัญหาการแยกชั้น
    2. คุณภาพผิวไม่เรียบ: อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการไหลมากเกินไป ส่งผลให้ผิวของชิ้นงานไม่เรียบและมีรอยหยาบ
    3. การเกิดเส้นใยไหม: การตั้งอุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้เกิดเส้นใยไหม (stringing) ในระหว่างการพิมพ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ชิ้นงานดูไม่เรียบร้อย
    4. การหดตัวและบิดงอ: แม้ว่า PETG จะมีความเสถียรภาพมากกว่า ABS แต่ถ้าอุณหภูมิฐานต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดการหดตัวและบิดงอในขณะที่ชิ้นงานเย็นตัว
    5. ความแข็งแรงของชิ้นงาน: ชิ้นงานที่พิมพ์ด้วยอุณหภูมิไม่เหมาะสมอาจมีความแข็งแรงต่ำ ซึ่งอาจไม่ทนทานต่อการใช้งาน

    การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 220-250 องศาเซลเซียส) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการพิมพ์ด้วยเส้น PETG!

    5. Carbon Fiber

    การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น Carbon Fiber (ซึ่งมักผสมกับ PLA, ABS หรือ Nylon) อาจส่งผลเสียได้หลายประการ เช่น:

    1. การเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี: อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้การหลอมละลายไม่เพียงพอ ส่งผลให้ชั้นไม่เกาะกันดี ทำให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงต่ำ
    2. ความแข็งแรงและความทนทาน: การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณสมบัติทางกลของชิ้นงานลดลง เช่น ความแข็งแรงหรือความทนทานต่อการใช้งาน
    3. การเกิดเส้นใยไหม: อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการไหลออกมากเกินไป ส่งผลให้เกิดเส้นใยไหม (stringing) ซึ่งทำให้ชิ้นงานดูไม่เรียบร้อย
    4. คุณภาพผิวไม่เรียบ: การตั้งอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวของชิ้นงานมีรอยหยาบหรือไม่เรียบ ส่งผลกระทบต่อความสวยงาม
    5. การบิดงอหรือหดตัว: อุณหภูมิฐานไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการบิดงอหรือหลุดออกจากฐานขณะพิมพ์

    การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 200-250 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับวัสดุพื้นฐาน) จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการพิมพ์ด้วยเส้น Carbon Fiber!

    6. Polycarbonate

    การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยเส้น Polycarbonate (PC) อาจส่งผลเสียได้หลายประการ เช่น:

    1. การบิดงอและการหดตัว: Polycarbonate มีแนวโน้มที่จะบิดงอหรือหดตัวเมื่อเย็นตัวลง หากอุณหภูมิฐานต่ำเกินไป จะทำให้เกิดปัญหานี้ได้ง่าย
    2. การเกาะกันระหว่างชั้นไม่ดี: อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้ชั้นไม่เกาะกันอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงต่ำและอาจเกิดปัญหาการแยกชั้น
    3. คุณภาพผิวไม่ดี: อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการไหลมากเกินไป ส่งผลให้ผิวของชิ้นงานมีรอยหยาบและไม่เรียบ
    4. การเกิดเส้นใยไหม: อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการไหลออกมากเกินไปและเกิดเส้นใยไหม (stringing) ในระหว่างการพิมพ์
    5. ความแข็งแรงของชิ้นงาน: การตั้งอุณหภูมิไม่เหมาะสมอาจทำให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงต่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาว

    การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม (ประมาณ 260-310 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับวัสดุพื้นฐาน) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการพิมพ์ด้วยเส้น Polycarbonate!

    บทความนี้อาจจะช่วยทุกคนได้เยอะรองตั้งค่าตามนี้นี้อาจจะทำให้เราได้ผลรับที่ดีขึ้นแน่นอน และลดอาการหัวตันได้แน่นอนถ้าเราเลือกใช้ถูกวิธี