Flashforge GuiderII เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Flashforge Guider โดยออกแบบใหม่ทั้งหมด ดีไซน์ดูดีกว่ามาก เครื่องใหญ่ขี้นและขยับการพิมพ์ให้ใหญ่จาก 250*250*200mm ไปเป็น 280*250*300mm
จุดที่เปลี่ยนแปลงมากๆนอกจากเรื่องขนาดพิมพ์ที่ใหญ่ขี้นคือ GuiderII สามารถพิมพ์วัสดุได้หลากหลายมากขี้น เนื่องจากมีฐานทำความร้อนใส่เข้ามา ทำให้วัสดุที่พิมพ์ได้นอกจาก PLA แล้วก็จะมี ABS, PETG, Nylon, PLA composite, HIPS เป็นต้น การออกแบบเครื่องคราวนี้ก็ดูดีขึ้น (มาก) จากเมื่อก่อนเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยมทื่อๆ ตอนนี้มามีส่วนตัด ส่วนมุมสวยมารับกับ หน้าจอ Touch Screen ตัวใหม่ (หน้าจอสีใหญ่ขี้น)
คุณภาพการพิมพ์หายห่วงจาก FF Guider ที่มีชื่อเรื่องการพิมพ์ PLA อยู่แล้ว มาคราวนี้ Guider2 สามารถพิมพ์ได้ดีทั้ง ABS และ PLA งานส่วนใหญ่ที่ลองล้วนแต่มีระยะเวลาในการพิมพ์ เกิน 24 ชม.ทั้งนั้น ซึ่งเครื่องทำได้ดีเลย ไม่ค่อยง้องแง้ง และ เราได้ทดสอบเรื่อง Auto Resume (แกล้งปิด switch ไฟ) เมื่อเปิดเครื่องก็สามารถกลับมาทำงานได้ใหม่ และระบบเชคเส้น (แกล้งตัดเส้นให้ขาด) ก็หยุดเครื่องอัตโนมัติแจ้งให้เราเปลี่ยนเส้น ซึ่งทั้งสองระบบนี้ลดปัญหาการเสียของงานโดยไม่ตั้งใจได้ระดับนึง
ความสามารถคร่าวๆของเครื่อง FF Guider2
1. พิมพ์ได้ใหญ่ 280*250*300mm
2. พิมพ์ที่ความละเอียด 50Micron – 400Micron
3. พิมพ์ ABS ได้ดีมาก (มีฐานทำความร้อน)
4. พิมพ์ PLA ได้ดีอยู่แล้วเหมือน Guider1
5. มีระบบ Resume Print สามารถพิมพ์งานต่อแม้ไฟดับ
6. มี Sensor เช็คเส้นหมด หากหมดจะหยุดพิมพ์ชั่วคราวให้เปลี่ยนเส้น ช่วยไม่ให้ทำให้งานเสีย
7. มีระบบ Auto Leveling ช่วยในการปรับฐานพิมพ์
8. ตัวเครื่องปิด ดีไซด์ดี แข็งแรง
9. เชื่อมต่อ USB Drive, USB Line, Wifi, LAN line
จุดเด่นของ FF Guider2
พิมพ์ดีมากทั้ง ABS และ PLA
โดยปกติเแล้วเครื่องพิมพ์ที่ใหญ่กว่า 25cm หาน้อยที่จะพิมพ์ ABS ได้ดี (หากลอง Search ดูหลายๆยี่ห้อถ้าเป็นเครื่องใหญ่แล้วจะเน้นที่ PLA เป็นหลัก) เนื่องจากการพิมพ์ ABS ต้องเลี้ยงให้ชิ้นงานมีความร้อนตลอด เพื่อลดการหดตัว และการแตกของชิ้นงาน ต้องมีฐานทำความร้อน และ รักษาอุณหูมิที่ฐาน/ห้องพิมพ์ให้สูงสม่ำเสมอ ซึ่งเครื่อง Guider2 มีฐานและห้องพิมพ์ปิด
สำหรับเครื่อง Guider2 เราทำการทดสอบมากกว่า 400ชม. และพิมพ์ ABS กว่า 80% เพื่อเชคการพิมพ์ที่ condition ต่างๆ ผลออกมาดี-ดีมาก งานพิมพ์ ABS นั้นเนียนมาก หากพิมพ์ให้ช้าๆสัก 40mm/sec เชื่อว่าไม่แพ้เจ้าใดในตลาด เราเทสเรื่องการพิมพ์ชิ้นงานสูงถึง 30cm ด้วย ABS ผลก็ออกมาได้ดีเช่นกันไม่แตก เรียกได้ว่าเครื่องพิมพ์ได้ดี เสถียร ไว้ใจได้
แต่หากพิมพ์ ABS ชิ้นใหญ่ปริมาตรใหญ่ตันๆ/ทรงลูกบาศก์เต็ม/ขนาด 30cm ก็หนีไม่พ้นเห็นรอยแตกของชิ้นงาน (ซึ่งเป็น ธรรมชาติของ ABS หากปริมาณใหญ่ๆ+ทรงตันๆ เมื่อพิมพ์ในตำแหน่งสูง ความร้อนของเครื่องจะไปไม่ถึงทำให้เกิดรอยแตก) แนะนำให้พิมพ์เป็น PLA จะหลีกเลี่ยงกรณีนี้ได้ เพราะ PLA หดตัวน้อยกว่า หรือหากจำเป็นต้องพิมพ์ ABS ปริมาณใหญ่และตันต้องหากเครื่องที่มีระบบลมร้อนเป่า (เครื่องขนาด 30cm และมีลมร้อนเป่าจะราคาสูงมากเลย)
สำหรับ PLA นั้น Guider2 พิมพ์ได้ดีมากอยู่แล้วเหมือน Guider1 คนจำนวนมากนำให้เครื่องไปพิมพ์งานโมเดล ลองดูไฟล์ภาพด้านล่างครับ
ระบบ Auto Resume
มาถึงระบบ Auto Resume บ้างนะครับ ระบบเพิ่งจะนำเข้ามากับเครื่อง Flashforge ที่ Guider2 ระบบนี้สะดวกดี เวลาเราพิมพ์ชิ้นงานหากเกิดเหตุไฟดับ ไฟตก แล้วทำให้เครื่องหยุด พอมาเปิดเครื่องใหม่ ระบบจะแจ้งว่าต้องการให้พิมพ์ต่อจากงานเดิมหรือไม่ ถ้าตอบตกลงเครื่องจะพิมพ์ต่อจะจุดสุดท้ายที่ค้างไว้ ระบบนี้อาจไม่ค่อยสำคัญกับเครื่องพิมพ์ขนาดเล็ก แต่หากพิมพ์ชิ้นงานใหญ่ย่อมจะมีเหตุให้ไฟดับมาก ตัวอย่างผู้รีวิว พิมพ์งานต่อเนื่อง 52ชม. ปรากฏว่ามีคืนนึงฝนตกหนัก พอมาตอนเจ้าตกใจเลยเครื่องพิมพ์ดับงานยังไม่เสร็จได้เกินครึ่งทางแล้ว หากไม่มีระบบ Auto Resume ก็คือต้องพิมพ์ใหม่อย่างเดียว แต่สำหรับ Guider2 เปิดเครื่องขึ้นมากด Auto Resume มันจะเริ่มทำงาน (รอนานหน่อย) มันจะพิมพ์ที่จุดเดิมให้เลย ผมว่าดีมากๆหากใช้แล้วจะติดใจ
ระบบเชคเส้นหมด
หากมาองเครื่องดีๆ ที่ส่วนหลังของเครื่องที่ให้สอดเส้นผ่าน จะมีเซนเซอร์เชคเส้นอยู่ กรณีหากเส้นพลาสติกหมดตัวเซนเซอร์ตัวนี้จะทำงาน หยุดเครื่องให้ อันนี้ก็เป็นข้อดี ป้องกันการพิมพ์งานเสีย-เส้นหมดพิมพืบนอากาศ ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำกว่าเราดูเส้นพลาสติกที่จะพิมพ์ไว้จะดีกว่า โดยควรจะมีให้พอกับชิ้นที่เราพิมพ์
ปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ล็อคเส้น
จากที่กล่าวไว้ข้างต้น เครื่องมีฐานทำความร้อน และ ตัวเครื่องปิด จึงสามารถพิมพ์เส้นพลาสติกได้หลากหลาย อีกทั้งระบบ feed เส้นพลาสติกเป็นแบบ Direct Drive (มอเตอร์ feed อยู่ติดกับหัวฉีด) ทำให้มีแรงส่งจริงพิมพ์เส้นที่อ่อนๆแนว Flexible ได้อีก
เส้นพลาสติกที่พิมพ์ได้จึงครอบคลุมเกือบทุกชนิดในท้องตลาด
ที่สำคัญที่สุดคือ Software ของเครื่องเปิดโอกาศให้เราปรับแต่งได้ในทุกจุด เช่นสามารถรับ ความเร็วในการพิมพ์ อุณภหูมิ ความละเอียดของชิ้นงาน ขั้นที่ว่าปรับได้ละเอียดยิบ ดังนั้นจึงใช้เส้นพลาสติก 3rd Party ในท้องตลาดได้
Software พัฒนาเองโดย Flashforge
อันนี้จุดแข็งมากของทาง Flashforge โดยพัฒนา Software ของตัวเองชื่อว่า Flashprint ใช้กลับเครื่องของต้น เหมือน Slicer ตัวอื่นโดยมีความสามารถเพิ่มเดิมดังนี้ สร้าง Support ได้เอง/ซ่อมไฟล์3มิติที่เสียเบื้องต้นได้/ตัดชิ้นงานได้/สามารถ import รูป Jpeg มาทำเป็นนูนต่ำ 2.5D ได้ และอื่นๆ
นอกจากนี้ยังแบ่งการ Setting เป็น 3แบบคือ แบบ Easy, Advance, Expert ต้องแต่ไม่ต้อง Set อะไรมาก จน Set ได้ทุกจุด รายละเอียดการใช้งาน FlashPrint กรุณาดูด้านล่างครับ
ข้อดี
1. ถ้าเทียบราคา และ คุณภาพ ถือว่าคุ้มค่ากว่าหลายๆเจ้า
2. คุณภาพงานพิมพ์ ABS และ PLA ดี-ดีมาก แม้ว่าเครื่องจะใหญ่ก็ตาม (ธรรมดาเครื่องใหญ่ มักจะพิมพ์ไม่สวย)
3. มีระบบช่วยการทำงาน Auto Resume, Filament Detection ลดปัญหางานเสีย ช่วยได้นะเออ
4. หน้าตา interface ดูดี ดูมีราคา ดูหรูหรา น่าใช้ขึ้นเยอะ
5. ตัวเครื่องเป็นระบบปิด ลดปัญหาเรื่องกลิ่น และ เก็บความร้อนได้ดี รวมถึงการพิมพ์ ABS ในห้องแอร์ได้
ข้อเสีย
1. Auto Resume หลังไฟดับ หากไฟล์ใหญ่ๆ โหลดนานมากๆ กว่าจะเริ่ม Resume หากเป็นไฟล์เล็กๆไม่มีปัญหา หากไฟล์ใหญ่/ชิ้นงานใหญ่มาก รอมัน Resume เป็นชม.
2. สายแพส่วนที่ต่อกับหัวฉีด แม้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นสายแข็งและหนาขี้นกว่า Guider1 ก็ยังห้อยอยู่ดี ดูรำคาญสายตานิดหน่อย
สรุป
หากใครมองหาเครื่องพิมพ์ 3มิติ ที่พิมพ์งานได้จริงจังขึ้นมา ตัวนี้ตอบโจทย์ได้เกือบทุกข้อ ทั้งขนาดที่ใช้ได้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม คุณภาพงานพิมพ์ที่ดีมากและไม่น้อยหน้าใคร ความเสถียรและระะบช่วยป้องกันงานเสีย
ที่สำคัญราคาน่าคบหา ความเทียบความสามารถ/คุณภาพ แล้วดูดีกว่าหลายๆเจ้า Flashforge ก็เป็น Brand ดังระดับโลกเรื่องอะไหล่ไม่น่ามีปัญหา และราคาไม่แพง // Software ก็หายห่วงเป็นอะไรที่ Flashforge พัฒนาเองและมีลูกเล่นอะไรออกมาใหม่เรื่อยๆ
แต่หากคิดว่าขนาดไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น อาจจะมองตัวลองๆลงมาได้ครับ
Video เพิ่มเติมครับ
อ่านเพิ่มเติ่ม
คู่มือการใช้งาน FlashPrint
Flashprint ตอนที่1
Flashprint ตอนที่2
Flashprint ตอนที่3
Flashprint ตอนที่4
Flashprint ตอนที่5
Gallery ของตระกูล Flashforge Guider