SOW เปรียบเทียบระบบ Virtual Tour ของ Matterport Pro3 VS Realsee Galois M2

SOW เปรียบเทียบระบบ Virtual Tour ของ Matterport Pro3 VS Realsee Galois M2

เอาล่ะครับทุกท่าน หากเดินทางมาด้วยกันจนถึงวันนี้ก็เรียกได้ว่าได้ติดตามกันมาย่างเหนียวแน่นพอสมควร และถึงจุดที่เราต้องเลือกกันแล้วระหว่าง Matterport Pro3 หรือเจ้าน้องใหม่อย่าง Realsee Galois M2 ที่มาแรงไม่แพ้กัน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เราได้มีการลองนำสเปกของทั้ง 2 รุ่นมาเปรียบเทียบกันในครั้งที่แล้ว และก็เป็นยอย่างที่ทุกท่านเห็น ถ้าหากเป็นในส่วนของสเปกหรือองค์ประกอบโดยรวมนั้นแทบจะไม่มีข้อมแตกต่างกันเลย แต่ถ้ามองถึงในส่วนของค่าใช้จ่ายในการสมัครใช้งานแล้วนั้น Realsee Galois M2 ถือว่าจัดโปรออกมาได้อย่างเฉียบขาดและนำหน้าไปพอสมควร เพราะนอกจากจะจ่ายค่าใช้จ่ายตามจริง และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เองแล้ว ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการโหลดไฟล์ก็ถูกกว่า matterport ในทุกด้าน จึงเป็นเหตุผลหลักในการทำให้ Galois นั้นสามารถตีตลาด Space Capture ได้อย่างถล่มทะลาย

และในวันนี้ Dfine จะขอนำทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกันอีกสักครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบในส่วนของผลลัพธ์จากการสแกน ซึ่งมาดูกันว่า ทั้งสองรุ่นนั้นมีข้อเด่น และความพึ่งพอใจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเหตุผลหรือแตกต่างของทั้ง 2 แบรนด์นี้จะมีอะไรบ้างเราไปติดตามกันเลยครับ

แอพพลิเคชั่น

Matterport Pro3 เริ่มต้นที่แอพการใช้งานกันก่อนครับ โดยแอพของ Matterport จะเป็นเพียงการควบคุมการทำงานของเครื่องเท่านั้น โดยเราสามารถกำหนดชื่อ และเริ่มทำการสแกนได้ทันที และสามารภ Export ไฟล์ออกมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ไม่เต็มเร็ว

Galois M2 แต่ในแอพของ Realsee Galois M2 นั้นจะมีชื่อว่า Realsee VR โดยภายในแอพนั้นจะเป็นโปรแกรมสำหรับการควบคุมเครื่อง และมากไปกว่านั้นคือ เราสามารถจัดการ Space ของเราได้เลยภายในแอพเดียวและยังสามารถดู Virtual ได้จากแอพพลิเคชั่นทันที

ผลลัพธ์การสแกน

Matterport Pro3 ภาพที่ได้จากตัว Matterport นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ความละเอียดสูงพอสมควรเลยเพราะให้ภาพที่มีความสว่างและใสชัดเจน และภาพที่ได้จะมีความอมฟ้าอยู่นิดๆ และในการหมุนไปรอบๆ นั้นถือว่าทำได้ดีทีเดียว ถึงแม้ว่าการเลื่อนจุดหรือการเลื่อนภาพไปยังตำแหน่งถัดไปอาจจะทำให้เวียนหัวไปสักนิดก็ตาม

Galois M2 มาถึงทางฝั่งของ Realsee Galois M2 กันบ้าง ตัวนี้เรียกได้ว่าภาพที่ได้นั้นค่อนข้างจะออกไปทาง Minamal พอสมควร เพราะ Mood และ Tone ของภาพนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา บางคนอาจจะบอกว่าติดเหลืองไปสักนิดและทาง Dfine คิดว่าจะทำให้เราสามารถใช้เวลากับ Virtual Tour ได้นานขึ้น และถือว่าเป็นการถนอมสายตานั้ยเอง และมากไปกว่านั้นการเคลื่อนที่จุดในโปรแกรมก็ยังทำได้อย่างราบรื่นไปทำให้ต้องเพ่งในการมองนั่นเอง

ฟังก์ชั่นและการปรับแต่ง

Matterport Pro3 ในส่วนของฟังก์ชั่นการทำงานของ Matterport นั้นพูตามตรงคือก็ยังคงเป็นฟังก์ชั่นที่เราๆ นั้นรู้จักกันดีอยู่ครับ ทั้งการเปิด-ปิดจุดสแกน การตัดส่วนที่ไม่ต้องการ การเบลอภาพต่างๆ ก็ยังคงมีให้ใช้อยู่ แต่หลายๆ ท่านคงจะหงุดหงิดน่าดูเพราะเปิดตัวมาหลายปีแล้ว ยังไม่มีการพัฒนาฟังก์ชั่นในไปมากนัก และยังคงต้องทำในระบบหลังบ้านผ่านคอมพิวเตอร์อยู่เช่นเดิม

Galois M2 แต่พอมาดูทางอีกฝั่งหนึ่งเรียกได้ว่าจัดเต็มมากสำหรับฟังก์ชั่น และมีเพียงสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารถจบงานได้ทันที คือสามารถทำได้ตั้งแต่การการเริ่มต้นสแกน การอัพโหลด และการแก้ไขปรับหน้าตาการทำงาน และฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่างเช่น การเพิ่มเสียงเพลงขณะใช้งาน การปรับแต่งหน้าปกของสเปส หรือที่น่าสนใจคือสามารถปรับไอคอนของ Virtual Tour ให้มความสวยงาๆได้อีกด้วย

การออกแบบและเพิ่มเติม Floor Plan

Matterport Pro3 ในส่วนของงานออกแบบนั้น Matterport จำเป็นจะต้องมีการชำระเงินเติมกันนะครับ โดยไฟล์ที่ได้จะเป็นไฟล์ .BIM ที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้ครับ ซึ่งผู้ใช้งานทุกท่านจะต้องทราบกันก่อนนะครับว่าไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปแบบใดก็ต้องชำระเงินก่อนใช้งานในทุกๆ ไฟล์

Galois M2 แต่หากมาดูในส่วนของ Realsee จะเห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องนี้เป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ทาง Realsee เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว โดยเราสามารถใช้งาน Floor Plan ได้ทันทีโดยเราสามารถเข้าไปใช้งานได้โดยกดปุ่ม Floor Plan ที่อยู่ด้านบนของจอ และยังมีฟังก์ชั่นที่ลึกไปกว่านั้นคือ สามารถทดลองวางเฟอร์นิเจอร์ หรือช่องประตูหน้าต่างได้อย่างง่ายดาย โดยไปที่ปุ่ม Edit