เผยแพร่จิตวิญญาและวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นด้วยการใช้ 3D Scanner

“สมบัติประจำชาติที่ดูดีมีชีวิต” เป็นคำยอดนิยมของญี่ปุ่นสำหรับบุคคลที่ได้รับการรับรองว่าเป็นผู้รักษาทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น คำว่า “สมบัติของชาติที่มีชีวิต” ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอย่างเป็นทางการในกฎหมาย แต่เป็นคำที่ไม่เป็นทางการที่อ้างอิงถึงทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ – Wikipedia.org

เพื่อเป็นการยกย่อง Haru Kobayashi อดีตสมบัติชาติที่มีชีวิตของประเทศญี่ปุ่น โดยนำ 3D Scanner :  EinScan Pro 2X Plus ใช้เพื่อสแกนบุคคลที่ดูมีความคล้ายคลึงในด้านหน้าตาและรูปร่างกับ Haru Kobayashi ที่เสียชีวิต เมื่อผลิต CM “Followers” 60-second CM “New Women’s Edition” ออกฉายโดย Netflix Co. Ltd ของญี่ปุ่น

ซีรีส์นี้เน้นย้ำถึงผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในความก้าวหน้าครั้งสำคัญ แม้ว่าพวกเธอจะมีบทบาทต่อสาธารณะอย่างจำกัดตลอดประวัติศาสตร์ และท้าทายกฎเกณฑ์และขอบเขตทางสังคมที่ล้าสมัย ตั้งแต่แพทย์หญิงคนแรกของโลก Merit-Ptah ชาวอียิปต์ ไปจนถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวฝรั่งเศส Olympe de Gouges ผู้ตีพิมพ์ “คำประกาศเรื่องสิทธิของผู้หญิงและพลเมืองหญิง” ในปี พ.ศ. 2334 หรือนักปีนเขาชาวญี่ปุ่น Junko Tabei ผู้ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ในปี 1975 ฮารุ โคบายาชิเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่โดดเด่นที่โดดเด่นในซีรีส์นี้

สมบัติของญี่ปุ่น
ตัวแทนทุกคนใน “CM#New Women´s Edition” เป็นนักแสดง ยกเว้นผู้หญิงที่พิเศษมากคนหนึ่งที่ได้รับการยกย่องในเรื่อง “การเลือกปฏิบัติข้ามพรมแดนและกลายเป็นสมบัติของชาติของมนุษย์” – ภาพลักษณ์ของเธอในภาพยนตร์สั้นเป็นตัวละคร 3 มิติเสมือนจริง เธอคือผู้ล่วงลับ ฮารุ โคบายาชิ ศิลปินสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น

โคบายาชิตาบอดเนื่องจากต้อกระจก 100 วันหลังจากที่เธอเกิดที่เมืองซันโจ จังหวัดนีงะตะ เมื่อพ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ลุงทวดของเธอรับเลี้ยงเธอ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอุปถัมภ์กลับใจร้ายกับเธอ เธอเริ่มเรียนรู้ซามิเซ็น (เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่มีสามสาย) เมื่ออายุสี่ขวบ และในที่สุดก็กลายเป็นเกอิชา (เกอิชาเป็นผู้ให้ความบันเทิงมืออาชีพที่คอยดูแลแขกในระหว่างมื้ออาหาร งานเลี้ยง และโอกาสอื่นๆ พวกเขาได้รับการฝึกฝนในศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมต่างๆ เช่นการเต้นรำและดนตรีตลอดจนศิลปะในการสื่อสาร) เมื่ออายุ 96 ปี เธอได้ทำอัลบั้มชื่อ “The Last Song by Geisha in Niigata” เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2548 โคบายาชิเสียชีวิตอย่างสงบ และการตายของเธอก็เป็นจุดสิ้นสุดของยุค “เกอิชาในนีงะตะ”

เทคนิคการสแกน 3 มิติและการพิมพ์ 3 มิติทำให้สามารถรื้อฟื้นพฤติกรรมของโคบายาชิสำหรับละครโทรทัศน์ด้วยวิธีที่แปลกใหม่และสวยงาม

เก็บข้อมูล 3 มิติจากบุคคลเสมือนด้วยการใช้ 3D Scanner
ประการแรก ค้นหาคนที่ดูคล้ายกับโคบายาชินั้นแต่งตัวด้วยชุดเกอิชาแบบดั้งเดิม จากนั้นจึงใช้ 3D Scanner เพื่อทำการสแกน 3 มิติ ขณะแสดงเป็นชามิเซ็นโดยใช้เครื่องสแกน 3D แบบพกพามัลติฟังก์ชั่น EinScan Pro 2X Plus การสแกนด้วย EinScan Pro 2X Plus ใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น และโมเดลก็ไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทางเริ่มต้นไว้นานเกินไป นอกจากนี้ แม้กระทั่งรอยยับเล็กๆ บนใบหน้าของนางแบบก็สามารถจับภาพได้อย่างแม่นยำ EinScan Pro 2X Plus แสดงให้เห็นความสามารถในการสแกนใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายอีกครั้งอีกครั้ง

จากการสแกนบุคคลจริงทั้งหมดข้อมูลจะถูกส่งไปประมวลผลการประติดประต่อภาพในโปรแกรมของ 3D Scanner และสุดท้ายจะนำไปประมวลผล 3 มิติเพื่อนำไฟล์ .STL ไปใช้งานต่อ

ข้อมูลการสแกนถูกนำเข้าไปยังโปรแกรม Zbrush 2020 เพื่อใช้ในการปรับปรุงแก้ไขไฟล์งาน 3 มิติที่ได้มา สามารถปรับเปลี่ยนเส้นผม รอยยับของเสื้อผ้า และรายละเอียดอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย และสายของเครื่องดนตรี Shamisen ได้รับการปรับในซอฟต์แวร์ CAD Rhinoceros

หลังจากขัดเกลาแล้ว ฐานก็ถูกสร้างขึ้นและข้อมูลก็เปลี่ยนเป็นสีทอง เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลในรูปแบบภาพ และแล้วการออกแบบก็เสร็จสมบูรณ์

การพิมพ์โมเดล 3 มิติ โดยใช้ 3D Printer
ข้อมูล 3D สุดท้ายได้รับการพิมพ์ ลงสี และแสดงใน CM “Followers” 60-second CM “New Women’s Edition” เพื่อทดแทนบุคลิกดั้งเดิมของโคบายาชิที่เสียชีวิตไปแล้วในปี 2548