เมื่อเด็กนักเรียนม.ปลายเริ่มฝึกพิมพ์ 3D พวกเขามักเริ่มจากเคสสมาร์ทโฟน เพราะมันไม่ซับซ้อนและเป็นของใช้ส่วนตัว เมื่อพกติดตัวไปใช้ จะคิดตลอดเวลาว่าจะทำยังๆไงให้ดีขึ้น
สุมาน มูลูมูดิ ไม่รอให้ถึงชั้นม.ปลาย เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วระหว่างเกรดแปดและเก้า พ่อแม่ของเขาซื้อ MakerBot Replicator 2 Desktop 3D Printer ให้ เขาใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ทำเคสไอโฟน เด็กวัยรุ่นบางคนตกแต่งเคสด้วยรูปดาร์ธเวเดอร์ แต่มูลูมูดิดัดแปลงเพิ่มแผนผังแสดงคลื่นเสียงความถี่ต่ำที่ส่งต่อไปยังไมโครโฟน เปลี่ยนไอโฟนธรรมดาของเขาให้เป็นเครื่องช่วยฟังของแพทย์โดยตั้งชื่อว่า Steth IO เขาใช้การพิมพ์แบบ 3D เป็นตัวต้นแบบและก่อตั้งบริษัท StratoScientific ซึงได้สมัครสิทธิบัตรไว้แล้ว
เครื่องช่วยฟังในยุคแรกๆทำโดยการเอาไมโครโฟนไปไว้ใกล้ๆหน้าอกผู้ป่วย มาเฮชผู้ซึ่งเป็นบิดาของมูลูมูดิเป็นหมอโรคหัวใจ ดังนั้นเรื่องการฟังเสียงหัวใจจึงเป็นเรื่องที่มูลูมูดิคุ้นเคย เขาไม่เชื่อว่าหมอจะไม่สามารถบันทึกเสียงหัวใจผู้ป่วยได้ เขากับพ่อกลายเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน เมื่อมูลูมูดิอยู่เกรดหก ผู้ปกครองรวบรวมเงินกันซื้อ MakerBot Thing-O-Matic ให้โรงเรียน สิ่งนี้ทำให้เขาได้เห็นถึงพลังของเครื่องปรินท์สามมิติ มูลูมูดิกล่าวว่า“คนอย่างบิลเกตส์ สตีฟ จอบส์ และโฮเวิร์ด ชูตส์ มักทำสิ่งที่เหมือนๆกัน นั่นก็คือพวกเขานำความคิดมาต่อยอดเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลก”
- เอาเข้าแล้ว!!เครื่องสแกนที่ตรวจจับปืนจาก 3D Printer
- ผ่ากบเป็นชิ้นส่วนจากเครื่องพิมพ์สามมิติ